บทนำ

เป็นกลุ่มอาการที่พบได้บ่อยในคนทำงานที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานานในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม มักเกิดจากการนั่งในท่าเดิม ๆ หรือใช้คอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ความตึงและปัญหาเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างร่างกาย เช่น ปวดคอ บ่า ไหล่ หรือหลัง

s

อาการ

สาเหตุ

การรักษาทางกายภาพบำบัด

1. การนวดคลายและการยืดกล้ามเนื้อ (Manual technique):

ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงและเพิ่มความยืดหยุ่น

2. การออกกำลังกายบำบัด (Exercise):

เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่อ่อนแอและปรับสมดุลของร่างกาย

3. การให้คำแนะนำด้านสรีรวิทยา (Physiological Guidance):

ปรับตำแหน่งโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน

4. การบำบัดด้วยความร้อนหรือเย็น (Hot-cold pack):

ลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด

5. การบำบัดด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave therapy):

กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อและยับยั้งกระบวนการอักเสบ

6. การบำบัดด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound therapy):

เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

7. การบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS):

ลดอาการปวด คลายกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อ

คำถามที่พบบ่อย

1. Office Syndrome รักษาหายขาดได้หรือไม่?

การรักษาขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองในระยะยาว หากปฏิบัติตามคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนท่าทางและออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาการสามารถหายดีได้

2. ต้องพักงานเพื่อทำกายภาพบำบัดหรือไม่

โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องพักงาน แต่ควรจัดเวลาเพื่อทำกายภาพบำบัดและปรับพฤติกรรมการทำงานในแต่ละวันเพื่อช่วยให้อาการดีขึ้น

3. ควรทำกายภาพบำบัดบ่อยแค่ไหน

นักกายภาพบำบัดจะออกแบบแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคน โดยปกติควรเข้ารับการบำบัดอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือทำตามคำแนะนำที่สามารถฝึกด้วยตัวเองได้ที่บ้าน

4. สามารถป้องกัน Office Syndrome ได้อย่างไร

การนั่งในท่าที่ถูกต้อง, การพักเบรกสม่ำเสมอ, การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และการปรับสถานที่ทำงานให้เหมาะสม จะช่วยป้องกันการเกิด Office Syndrome ได้