บทนำ

ปวดข้อศอก (Elbow pain) เป็นอาการบาดเจ็บที่มักเกิดจากการใช้งานหรือเคลื่อนไหวมือ ข้อมือ หรือข้อศอกมากเกินไป รวมถึงสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยจากอุบัติเหตุในระหว่างการเล่นกีฬาหรือการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันด้วย นอกจากนี้ อาการปวดข้อศอกอาจเป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงมากขึ้น เช่น โรคข้ออักเสบ ปัญหาเกี่ยวกับกระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อ

Picture2

อาการ

อาการปวดข้อศอก มี 3 ประเภทหลัก:

สาเหตุ

การฉีกขาดของเส้นเอ็นรอบ ๆ ข้อศอก มักเกิดจากการเสื่อมสภาพและการขาดความยืดหยุ่น รวมถึงการใช้งานหนักซ้ำ ๆ จนร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมได้ทัน ส่งผลให้เกิดการอักเสบ อาชีพที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่:

การรักษาทางกายภาพบำบัด

1. การบำบัดด้วยความร้อนหรือเย็น (Hot-cold pack):

ใช้ประคบเย็นเพื่อลดบวมและปวดหลังการบาดเจ็บ และประคบร้อนเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ตึง.

2. การบำบัดด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical stimulation):

ช่วยลดอาการปวดและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด.

3. การบำบัดด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound therapy):

เพิ่มการไหลเวียนเลือดและกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ.

4. การบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS):

ลดอาการปวดและเพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อ.

5. การบำบัดด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave therapy):

กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อและลดอาการปวด.

6. การบำบัดด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นกำลังสูง (High power laser therapy):

เพิ่มการไหลเวียนเลือดและบรรเทาอาการปวด.

7. การยืดกล้ามเนื้อและการออกกำลังกาย (Exercise):

ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ.

8. การนวดและการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (Manual technique):

ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวด

คำถามที่พบบ่อย

มีวิธีการป้องกันอาการปวดข้อศอกอย่างไร ?

การเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมก่อนเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ (Warm up)

ยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ เรียนรู้ท่าทางที่ถูกต้องสำหรับแต่ละกิจกรรม หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่มีการใช้ข้อศอกซ้ำ ๆ มากเกินไป

อาการปวดข้อศอกใช้ระยะเวลาเท่าไรในการหาย ?

อาการปวดข้อศอกจะค่อยๆ ลดลงหลังจาก 6-12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ