บทนำ

อาการปวดไหล่เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อกิจวัตรประจำวันและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเล่นกีฬา การทำความสะอาดร่างกาย และการใส่เสื้อผ้า โดยมักเกิดจากการเคลื่อนไหวของข้อต่อไหล่ที่มากที่สุด ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดที่หัวไหล่และปวดร้าวลงไปที่แขน บางรายอาจมีอาการปวดเป็นครั้งคราว ขณะที่บางคนอาจมีอาการปวดเรื้อรังที่รู้สึกปวดตลอดเวลา

s

อาการ

สาเหตุ

อาการปวดไหล่สามารถเกิดจากหลายสาเหตุ

การรักษาทางกายภาพบำบัด

1. การบำบัดด้วยความร้อนหรือเย็น (Hot-cold pack):

ใช้การประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวมและปวดในช่วงแรกหลังบาดเจ็บ ส่วนการประคบร้อนช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึง

2. การบำบัดด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical stimulation):

ลดอาการปวดและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

3. การบำบัดด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound therapy):

เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

4. การบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS):

ลดอาการปวด คลายกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรง

5. การบำบัดด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave therapy):

กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อและยับยั้งการอักเสบ

6. การบำบัดด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นกำลังสูง (High power laser therapy):

ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและบรรเทาอาการปวด

7. การยืดกล้ามเนื้อและการออกกำลังกาย (Exercise):

ช่วยลดความตึงตัวและเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

8. การนวดและการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (Manual technique):

ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวด

9. การขยับดัดดึงข้อต่อ (Mobilization):

เพิ่มองศาการเคลื่อนไหวของข้อต่อและลดความตึงตัวของเนื้อเยื่อรอบข้อต่อ

คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่พบบ่อย

อาการปวดข้อไหล่สามารถหายได้หรือไม่ ?

สามารถหายเองได้ แต่ใช้เวลานานมาก โดยระยะการฟื้นตัวมี 3 ระยะคือ อักเสบ ข้อยึด และฟื้นตัว ซึ่งรวมแล้วอาจใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี การทำกายภาพบำบัดสามารถช่วยลดอาการปวดและอักเสบ รวมถึงเพิ่มมุมการเคลื่อนไหว ทำให้การฟื้นตัวเร็วขึ้น

วิธีป้องกันอาการปวดไหล่อย่างไร ?

ลดการใช้งานข้อไหล่หนักเกินไป เช่น การยกของหนักหรือใช้งานหักโหม หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ข้อไหล่ต้องทำงานหนักติดต่อกันนาน ๆ